“อ้วนนนน” คำสั้น ๆ ที่สื่อถึงความอวบอิ่มจากการสะสมมานานแรมปีด้วยความมีอันจะกินของใครหลายคน คำวิเศษณ์คำนี้มีความวิเศษตรงที่สามารถสร้างความน้อยเนื้อต่ำใจให้ผู้ฟัง แถมสร้างเสียงหัวร่อต่อกระซิกให้ผู้พูดได้อย่างไม่น่าเชื่อ เราและท่านทราบดีอยู่แล้วจากการ shaming ที่ฝังลึกในวัฒนธรรมจนแก้ไขได้ยากแสนยาก หลายคนทั้งอึดอัดใจ ทั้งอึดอัดหุ่น อยากตะโกนบอกทุกคนว่า “ฉันก็กำลัง ลดน้ำหนักอยู่นี่ไงล่ะ!”

นอกจากเสียงรอบข้างที่คอยทิ่มแทงแล้วนั้น สิ่งที่ทำให้ปวดใจไม่แพ้กัน คือ โรคภัยและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่จะตามมาจากภาวะอ้วนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจ โดยข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า คนไทยเริ่มอ้วนตั้งแต่เด็ก โดยมีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการบริโภคของเด็ก กินอาหาร Junk Food ขนมขบเคี้ยว และนิสัยการไม่ออกกำลังกาย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้มีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามสภาพสังคมยุคปัจจุบัน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.praram9.com/childhoodobesity

ทันทีที่นึกขึ้นได้ ย้อนกลับมาคำนวณค่าดัชนีมวลกายที่เคยถูกคุณครูพร่ำสอน กดเครื่องคิดเลขแล้วเกินเกณฑ์ไปมากโดยไม่รู้ตัว เชื่อว่าหลายคนคงมาจับเจ่าหาสารพัดวิธีการเพื่อลดความอ้วนแบบจริงจัง เพื่อที่จะทำให้เจ้า B M I กลับคืนสู่สามัญเร็วๆ แต่ก็ใช่ว่าวิธียอดฮิตที่ชาวเน็ตแนะนำอย่าง “วิธีการลดความอ้วนด้วยตัวเอง” นั้นจะใช้ได้ผลกับทุกคน บางคนลดแป้ง ลดมัน ทานอาหารลดความอ้วน โลว์คาร์บ คาร์ดิโอ จนเหงื่อไหลออกต่างน้ำตา แต่ผลลัพธ์ก็ยังไม่เป็นที่พึงพอใจอยู่ดี เพราะยังมีอีกหลากหลายปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น สมดุลฮอร์โมนที่มีผลกับระบบเผาผลาญ ที่อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ ความเครียดเรื้อรัง การอดนอน สมดุลสารอาหารและวิตามิน การอักเสบ ติดเชื้อ หรือแม้แต่สารพิษสะสมจากสิ่งแวดล้อม เป็นต้น สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมดุล ฮอร์โมนกับการลดน้ำหนัก
ได้ที่ https://www.praram9.com/hormonesandweightmngt/

ถ้าวิธีแบบที่ผ่านมายังไม่ได้ผล งั้นลองมาทำความรู้จักกับอีกด้านของการลดน้ำหนัก หรือการลดความอ้วนด้วยการ “ผ่าตัด” ดูบ้างไหมล่ะ …เอาล่ะ เราเข้าใจว่าแค่อ่านผ่าน ๆ มันก็เป็นวิธีที่ใครหลายคนอาจยังไม่ให้การยอมรับ แต่ต้องขอบอกให้ท่านทราบนิดนึงว่า แม้วิธีนี้จะเหมาะกับคนบางคนเท่านั้น แต่ก็เป็นวิธีการที่การแพทย์สากลยอมรับเลยทีเดียวนะ

นาวาโท นพ.คมเดช ธนวชิระสิน ศัลยแพทย์ด้านการผ่าตัดส่องกล้องโรคอ้วนและเมตาโบลิค  โรงพยาบาลพระรามเก้า เผยว่า “ความอ้วนของคนบางกลุ่มเกิดขึ้นเพราะสมดุลของระบบเผาผลาญผิดปกติ ที่มาจากความเครียดและสาเหตุอื่น ๆ และส่งผลให้ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป เช่น ฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin) กระตุ้นความหิวหลั่งออกมามากผิดปกติ หรือฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) มากระตุ้นอาการอยากหวานมากเกินไป จนตามมาซึ่งผลของ ‘ภาวะโรคอ้วน’ ที่ควบคุมไม่ได้ และที่อาจแย่กว่านั้น ภาวะดังกล่าวอาจส่งผลให้หลายคนโทษตัวเองว่า ความอ้วน คือตราบาป (stigma) ทางจิตใจ จนเกิดผลเสียมากมายตามมา”

“วิธีการผ่าตัดลดน้ำหนัก” จึงถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการลดความอ้วนที่ควบคุมไม่ได้ อย่างได้ผล

         “การผ่าตัดลดน้ำหนักที่แพทย์สากลยอมรับมีอยู่ 2 วิธี” คุณหมอคมเดช เอ่ย “วิธีแรกคือ การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ https://www.praram9.com/obesity/ (Restrictive procedure) เป็นวิธีที่นิยมทำกันมากที่สุด แนวทางของวิธีการนี้คือ การส่องกล้องเพื่อตัดกระเพาะออกบางส่วน (Laparoscopic sleeve gastrectomy) จนทำให้กระเพาะมีขนาดเล็กลง และทำให้เราทานอาหารได้น้อยลง ซึ่งเป็นการปรับสมดุลการกินและความหิวอย่างได้ผล จนทำให้การลดน้ำหนักประสบผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ”

สำหรับโปรแกรมผ่าตัดส่องกล้องลดขนาดกระเพาะอาหาร ด้วยเทคโนโลยี https://www.praram9.com/product/weight-loss-surgery-program/ “อีกวิธีที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คือ การผ่าตัดเพื่อลดการดูดซึมอาหาร (Mal-absorptive procedure) ซึ่งเป็นการทำบายพาส (bypass) อาหาร ให้ไปเริ่มต้นการดูดซึมที่ทางเดินอาหารส่วนล่างเลย เพื่อให้อาหารที่ทานเข้าไปไม่ผ่านบริเวณที่มีการดูดซึมอาหารมาก เช่น การผ่าตัดแกสสตริกบายพาส (Roux-en-Y gastric bypass) ซึ่งจะลดขนาดกระเพาะควบคู่กับการบายพาสอาหาร ซึ่งช่วยให้ความอยากอาหารมากผิดปกติ ลดลงตามไปด้วย”

สรุปง่ายๆ คือ การผ่าตัดทั้ง 2 วิธีนี้ จะทำให้จุดกำเนิดฮอร์โมนความหิวอย่าง “กระเพาะอาหาร” มีขนาดที่เล็กลง จึงลดการหลั่งฮอร์โมนเกรลินไปด้วย ทำให้ลดความอยากอาหาร และลดปริมาณอาหารที่ทานเข้าไปด้วยนั่นเอง

         ความอ้วนไม่ใช่สิ่งผิด รูปร่างที่แตกต่างไม่ได้ทำให้คุณค่าของใครด้อยลง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่า ความอ้วนคือหนึ่งในสาเหตุของปัญหาสุขภาพที่เรื้อรังมากมาย (หรือถ้าให้พูดในเชิงเศรษฐศาสตร์ คือความอ้วนจะนำพาไปสู่ความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากค่ารักษาปัญหาสุขภาพอย่างไม่จบสิ้น) และที่แย่คือ

ต้องยอมรับว่าเรายังวนเวียนอยู่ใน “ระบบผอมนิยม” แทนที่จะโฟกัสไปที่ประเด็นสุขภาพ ถ้าจิตคุณไม่แข็งพอ ความอ้วนนี้ก็จะย้อนมาทำร้ายสุขภาพจิตเราในสักวันเป็นแน่

การผ่าตัดกระเพาะจึงไม่สมควรเป็นวิธีการที่ต้องถูกตั้งแง่ในด้านลบขนาดนั้น เพราะสำหรับคนที่มีภาวะโรคอ้วน มันคือการรักษาที่เห็นผลลัพธ์จับต้องได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ช่วยปรับค่าดัชนีมวลกายให้เป็นปกติ และยังสร้างความสุข (ดัชนีมวลใจ) ได้พร้อมกันในคราวเดียว

         ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยการผ่าตัด ควรปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำโดยละเอียด จากโรงพยาบาลพระรามเก้า สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Website: www.praram9.com  / Line: https://lin.ee/vR9xrQs หรือ@praram9hospital

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here