ปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aged Society) โดยมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุในช่วง 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 20% หรือประมาณ 14 ล้านคน ทำให้ขณะนี้มีผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ หรือเนอร์สซิ่งโฮม (Nursing Home) ดังนั้น บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้ (Certainty) จึงได้จัดงานสัมมนาวิชาการออนไลน์ Certainty Grand Symposium Virtual Conference 2022 การสร้างความร่วมมือและผลักดันธุรกิจดูแลผู้สูงอายุเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายในงาน นพ.เก่งพงศ์ ตั้งอรุณสันติ นายกสมาคมการค้าและการบริการสุขภาพผู้สูงอายุไทย ให้เกียรติเป็นวิทยากรโดยมีศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 100 แห่ง

น.ส.พรภัทร จิรเรืองปัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมผู้ใหญ่เซอร์เทนตี้ มีประสบการณ์มายาวนานกว่า 40 ปี ในการคิดค้น พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขอนามัยผู้สูงวัยบนพื้นฐานความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลักและนำมาศึกษาร่วมกับทีมวิจัย ทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภค บุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มโรงพยาบาล ทั้งนี้ในปัจจุบันด้วยสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง มีศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เซอร์เทนตี้จึงจัดงานสัมมนาวิชาการออนไลน์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมองค์ความรู้ทางด้านบริการ แนวทางดำเนินธุรกิจ แนวทางขั้นตอนและระบบการดูแลสุขอนามัย  รวมถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการใช้ในแต่ละประเภทให้กับผู้ประกอบการธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุชั้นนำในไทย เพื่อยกระดับธุรกิจการดูแลผู้สูงอายุให้มีคุณภาพสูงขึ้น

ด้าน นพ.เก่งพงศ์ ตั้งอรุณสันติ  นายกสมาคมการค้าและบริการสุขภาพผู้สูงอายุไทย กล่าวว่า ข้อมูลจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (Thailand Development Research Institute) หรือ TDRI ปัจจุบันสังคมไทยจะมีผู้สูงอายุที่มีอายุยืนยาวขึ้น ซึ่งอายุขัยเฉลี่ยของผู้หญิงอยู่ที่ 78 ปี ชาย 73 ปี แต่ในอนาคตอาจเกิน 85 ปี ดังนั้นแนวทางดูแลสุขภาพให้แข็งแรงก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ขณะนี้ทั่วโลกให้ความสนใจเกี่ยวกับเทรนด์การดูแลผู้สูงอายุให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในบ้านตัวเอง (Aging in place) ได้นานที่สุดจนวาระสุดท้าย โดยต้องมีระบบการจัดการที่ดี หรือเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่สำหรับประเทศไทย การให้คนสูงอายุใช้ชีวิตในรูปแบบดังกล่าว จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน
อย่างไรก็ตาม มีวิธีสังเกตการเข้าสู่วัยผู้สูงอายุได้จาก
•       การที่อายุมากขึ้นจะเกิดความถดถอยของสมรรถภาพ อวัยวะ ระบบประสาทสัมผัส สมอง กล้ามเนื้อและอื่นๆ (Reduced Body Reserve)
•       ผู้ที่เกิดภาวะความเจ็บป่วยอาการแสดงเฉพาะโรคไม่ชัดเจน (Atypical Presentation)
•       ผู้ที่เริ่มมีหลายโรคในเวลาเดียวกัน (Multiple Pathology)
•       บางคนมีการใช้ยาหลายชนิด และบางรายอาจมีการใช้ยาที่ซับซ้อน (Polypharmacy) เช่น ยาฉีด พ่น แปะ เป็นต้น
•       ผู้ที่เริ่มมีการแยกตัวเองออกจากสังคม (Social Adversity)
ดังนั้น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือที่อยู่อาศัยจะต้องออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัย รวมทั้งผู้ดูแลจะต้องรู้เท่าทัน ด้านร่างกาย จิตใจ สังคม ความสัมพันธ์เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงจะจัดการอย่างไรให้ผู้สูงอายุรู้สึกปลอดภัย มีความสุขและเกิดการดูแลที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย เชื่อว่ายังมีโอกาสเติบโต เนื่องจากไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุ รวมถึงชาวต่างชาติก็ต้องการเข้ารับบริการในประเทศเช่นกัน ซึ่งตลาดบริการด้านสุขภาพของไทยได้เปรียบในเรื่องของบุคลากรที่มีคุณภาพ แหล่งท่องเที่ยว ค่าครองชีพที่ไม่สูง มีสถานพยาบาลเป็นจำนวนมาก และเข้าถึงแพทย์ค่อนข้างง่าย

นายกสมาคมการค้าและบริการสุขภาพผู้สูงอายุไทย กล่าวต่อว่า ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 สมาคมฯ ได้มีการแนะนำกลยุทธ์ 4’s P Strategy ให้กับศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ประกอบด้วย
1.      People ให้คำนึงเสมอว่าคนสามารถนำพาเชื้อโรคไปแพร่กระจายได้ทุกที่ ดังนั้นบุคลากรที่ดูแลผู้สูงอายุ มีความจำเป็นจะต้องได้รับการฉีดวัคซีน และมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19เป็นระยะ ผู้สูงอายุที่เข้าใหม่หรือออกไปตรวจที่โรงพยาบาลจะต้องมีมาตรการที่รัดกุมในการดูแล
2.      Place การจัดการสถานที่ ดูแลความสะอาดและห้องพักควรมีระยะห่างของเตียง 1.5 เมตร
3.      Protocol การออกมาตรการที่เข้มงวด มีการบังคับใช้และพร้อมที่จะปรับปรุงให้เข้ากับสถานการณ์
4.      Practice การบังคับใช้มาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่องให้เป็นวัฒนธรรมองค์กร เพื่อให้บุคคลในองค์กรปฏิบัติตามให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดกับผู้รับบริการ
สิ่งที่อยากจะฝากอีกประการหนึ่งในช่วงโควิด-19 คือ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุจะต้องใส่ใจคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุมากขึ้น เพราะมีการลดการจัดกิจกรรม ลดการเข้าเยี่ยมของญาติ ดังนั้น ควรมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เช่น การใช้ VDO Call โซเชียลมีเดีย เพื่อเพิ่มกิจกรรมในแต่ละวัน เพื่อลดความเครียดและช่องว่างที่อาจจะเกิดขึ้น ระหว่างผู้สูงอายุ ญาติและพนักงาน ให้สามารถผ่านพ้นช่วงระยะเวลานี้ไปได้

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here