หน้าแรก What's New ศาลปกครองกลางสั่งคุ้มครองอธิการบดีรามคำแหงคืนสู่ตำแหน่ง What's NewPR Newsการปกครอง/ตำรวจ-ทหารGood Newsข่าวพิเศษ/รางวัล/การประกวด ศาลปกครองกลางสั่งคุ้มครองอธิการบดีรามคำแหงคืนสู่ตำแหน่ง โดย thegoodnews - กุมภาพันธ์ 15, 2023 1011 0 Facebook Twitter LINE Email Linkedin Pinterest เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง พร้อมด้วยทีมบริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหง แถลงข่าว “ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองอธิการบดีรามคำแหงคืนสู่ตำแหน่ง” หลังสภามหาวิทยาลัยถอดถอน ณห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารวิทยบริการและบริหาร มหาวิทยาลัยรามคำแหง (หัวหมาก) ด้วยศาลปกครองกลางมีหนังสือแจ้งคำสั่งศาล คดีหมายเลขดำที่ บ.362/2565 เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ศาลมีคำสั่งคุ้มครองให้ ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ กลับมาปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี โดยให้ทุเลาการบังคับตามมติของสภามหาวิทยาลัยที่ได้ถอดถอน ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง และทุเลาการแต่งตั้ง ผศ.ดร.บุญชาล ทองประยูร เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี จากเหตุการณ์ที่สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้มีมติเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ถอดถอน ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ออกจากตำแหน่งอธิการบดี ด้วยข้อกล่าวหาว่าประพฤติผิดจริยธรรมและจรรยาบรรณในพฤติการณ์ 3 กรณี คือ 1. ผศ.ดร.สืบพงษ์ ให้ความช่วยเหลือนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ซึ่งถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ โดยการรับโอนที่ดินจากนายสุพจน์ จำนวน 2 แปลง และกล่าวอ้างว่าเงินของนายสุพจน์ที่ถูกยึดเป็นของกลางส่วนหนึ่ง คือเงินจำนวน 4,500,000บาทนั้น เป็นเงินของ ผศ.ดร.สืบพงษ์ เมื่อมีคำพิพากษาให้ที่ดินและเงินของ ผศ.ดร.สืบพงษ์ ตกเป็นของแผ่นดิน ผศ.ดร.สืบพงษ์ไม่ได้รายงานให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงซึ่งเป็นต้นสังกัดทราบ สภามหาวิทยาลัย เห็นว่าเป็นการประพฤติผิดต่อพระราชบัญญัติมาตรฐานจริยธรรม พ.ศ. 2562 และเข้าข่ายประพฤติผิดจรรยาบรรณของผู้บริหารตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยรามคำแหงว่าด้วยจรรยาบรรณข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย และลูกจ้าง ม.ร. รวมถึงผิดพรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2547 2. ผศ.ดร.สืบพงษ์ ใช้คุณวุฒิปริญญาเอกที่ไม่ได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.พ.มาสมัครเข้าเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยตำแหน่งอาจารย์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง จึงเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ ไม่มีฐานะเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยมาแต่แรก และแสดงถึงความไม่ซื่อสัตย์สุจริต ขาดจริยธรรม 3. ผศ.ดร.สืบพงษ์ ได้ยื่นหนังสือลงวันที่ 1 สิงหาคม 2565 ทูลเกล้าฯ ถวายฎีการ้องทุกข์ โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง เป็นการกระทำที่ขาดไร้จริยธรรมและประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ด้วยสาเหตุดังกล่าว ในการประชุมครั้งนั้นมีมติถอดถอนอธิการบดี และแต่งตั้ง ผศ.ดร.บุญชาล ทองประยูร เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมีอุปนายกสภามหาวิทยาลัย (ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกสภามหาวิทยาลัย) ลงนามหนังสือแต่งตั้งดังกล่าว และได้เพิกถอนสัญญาจ้าง ผศ.ดร.สืบพงษ์ จากการเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยรามคำแหงตามมา ศาลมีความเห็นว่า กรณีสภามีมติถอดถอน ผศ.ดร.สืบพงษ์ ออกจากตำแหน่ง ควรต้องให้โอกาสเจ้าตัวได้ทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และมีโอกาสได้โต้แย้งและแสดงพยานหลักฐานของตน จึงเป็นการกระทำที่น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งหากมีมติพิพาทมีผลใช้บังคับต่อไป จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไข ผศ.ดร.สืบพงษ์ จะเสียโอกาสในการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง การทุเลาการบังคับของศาลในกรณีนี้จะไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานของมหาวิทยาลัยหรือแก่บริการสาธารณะ โดยการปฏิบัติหน้าที่ของอธิการบดีต้องเป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบและข้อบังคับของทางราชการและของมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสภามหาวิทยาลัย นอกจากนี้ศาลยังมีความเห็นว่า การแต่งตั้ง ผศ.ดร.บุญชาล ทองประยูร เป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากอาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลังแก่ผศ.ดร.สืบพงษ์ โดยอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอธิการบดี อีกทั้งศาลเห็นว่า ผศ.ดร.สืบพงษ์ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอธิการบดีได้ต่อไป ศาลจึงได้มีคำสั่งกำหนดวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา โดยให้ทุเลาการบังคับตามมติของสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ถอดถอน ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ออกจากตำแหน่งอธิการบดี และแต่งตั้ง ผศ.ดร.บุญชาล ทองประยูร ป็นผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมทั้งทุเลาการบังคับคำสั่งการถอดถอนอธิการบดีออกจากตำแหน่ง และการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนอธิการบดีไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น จากกรณีที่สภามหาวิทยาลัย ไม่ยอมรับการกลับมาทำหน้าที่ของอธิการบดีฯ ตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลนั้น ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ กล่าวทิ้งท้ายว่า ผมยึดหลักขบวนการยุติธรรมในการตัดสิน ซึ่งศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งคุ้มครองให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง (วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566) ผมและทีมผู้บริหารพร้อมเดินหน้าปฏิบัติงานทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ตามคำสั่งศาลให้กลับมาปฏิบัติหน้าที่อธิการบดี’ บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน สกพอ. จับมือ 9 หน่วยงานรัฐ เอกชน ร่วมสร้างสมดุลการใช้น้ำ สู่พื้นที่อีอีซีอย่างยั่งยืน ไวไว X ไปรษณีย์ไทย ส่งด่วนความว้าวถึงมือ “คนที่ว้าวที่สุด” เตรียมรับเซอร์ไพรส์สุดว้าวได้ทั่วประเทศ - Advertisement - หมวดหมู่What's New2114แนะนำผลิตภัณฑ์ / ข่าวทั่วไป976การศึกษา/อบรม-สัมมนา295สังคม/สุขภาพ/ความงาม237นวัตกรรม/เทคโนโลยี/ไอที236ศิลปวัฒนธรรม/ท่องเที่ยว/บันเทิง172