พลเอก กัมปนาท  รุดดิษฐ์  องคมนตรี  ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิโครงการหลวง  เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมการปลูกและบริหารจัดการป่าอย่างยั่งยืน ภายใต้โครงการปลูกป่าวนเกษตรอย่างมีส่วนร่วมของมูลนิธิโครงการหลวง และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น  56 ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน โดยมี นายสมหวัง  บุญระยอง  รองผู้ว่าการราชการจังหวัดเชียงราย  ดร.ชาคริต   ศึกษากิจ   ประธานกรรมการนักศึกษา วปอ. รุ่น 56   ดร.ชุติมา   เอี่ยมโชติชวลิต  ผู้ว่าการ  สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)  กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์  วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะประธานคณะทำงานด้านกิจกรรมเพื่อสังคมของนักศึกษา วปอ. รุ่น 56  พร้อมด้วยคณะกรรมการ  ผู้บริหาร  และบุคลากร วว. หน่วยงานราชการและประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม  ในวันที่ 23  กรกฎาคม 2566 ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน ต.แม่เจดีย์ใหม่  อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย

โอกาสนี้ องคมนตรี และคณะ วปอ. รุ่น 56  ได้มอบโรงเรือนเพาะชำ บ่อกักเก็บน้ำ  กล้าไม้ และจักรยาน ให้แก่ผู้แทนเกษตรกรและเยาวชน พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการและการสาธิตการเพาะเห็ดไมคอร์ไรซาและรับมอบถังขยายชีวภัณฑ์/ถังน้ำ ขนาด 1,000 ลิตร  จำนวน  5 ชุด จาก วว. ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์ให้กับเกษตรกร  ผู้ประกอบการ  ในการขยายชีวภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐาน  ให้เพียงพอกับการใช้ประโยชน์ด้านเกษตรกรรม  ในการนี้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมเกษตรกรในพื้นที่ ได้ปลูกไม้เศรษฐกิจผสมกับการปลูกไม้ป่าโตเร็วร่วมกับการเพาะเชื้อเห็ดไมคอร์ไรซา ซึ่ง วว. สนับสนุนองค์ความรู้และเทคโนโลยี  โดยมีพื้นที่ปลูกรวมทั้งสิ้น  21  ไร่

 “…กิจกรรมเพื่อสังคมดังกล่าวสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของมูลนิธิโครงการหลวง ที่ต้องการส่งเสริมให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการปลูกและดูแลรักษาต้นไม้อย่างยั่งยืน ขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งนักศึกษา วปอ. รุ่น 56 ที่เป็นแกนหลักในการจัดกิจกรรม รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ  เอกชน  ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ ด้วยการส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ได้ปลูกพืชเศรษฐกิจและไม้มีค่า หรือพืชเศรษฐกิจในชุมชนไปพร้อมๆ กับการเพาะเห็ดไมร์คอไรซา ในรูปแบบของวนเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นวิธีการที่เหมาะสม ทำให้ชุมชนลดการใช้สารเคมี สามารถสร้างรายได้จากการเก็บเกี่ยวผลผลิต สร้างความมั่นคงด้านอาหารชุมชน และระบบนิเวศป่า  

นอกจากการสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน โดยให้ชุมชน เกษตรกร เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาป่าแล้ว  โครงการฯ ยังได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกลและเยาวชนได้รับความรู้ทั้งในด้าน การเพาะกล้าไม้ การเพาะเชื้อเห็ด การผลิตสารชีวภัณฑ์ ตลอดจนระดมทุนสร้างสิ่งก่อสร้างสำหรับใช้สาธารณประโยชน์ ในรูปแบบโรงเรือน บ่อกักเก็บน้ำ และมอบจักรยาน ซึ่งชุมชนสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่อง  โครงการ วปอ. 56 ปลูกป่าฯ ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เป็นต้นแบบในการปลูกป่าบนพื้นที่สูง สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและเกษตรกรได้อย่างเป็นรูปธรรม และจะเป็นการดียิ่งหากสามารถต่อยอดและขยายพื้นที่การปลูกป่าแบบมีส่วนร่วมนี้ ไปยังพื้นที่อื่นๆ ของโครงการหลวง หรือพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ  หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การดำเนินโครงการฯ ที่ทรงคุณค่าเช่นนี้ จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว และสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรในพื้นที่สูง ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป…” พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ กล่าว

ดร.ชาคริต   ศึกษากิจ   ประธานกรรมการนักศึกษา วปอ.  รุ่น 56   กล่าวว่า   วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 56 เล็งเห็นว่า  ปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้ของประเทศไทยมีปริมาณลดลง  นอกจากจะส่งผลต่อสภาพดิน ฟ้า อากาศ แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่และความยั่งยืนด้านอาหาร  ดังนั้นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวจึงเป็นแนวทางหนึ่งในการปัญหาดังกล่าว กอปรกับ มูลนิธิโครงการหลวง มียุทธศาสตร์ในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว โดยเน้นความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีต่างๆ ในการส่งเสริมให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการปลูกป่า ดูแลรักษาต้นไม้อย่างยั่งยืน เพื่อสร้างรายได้ โดยปรับเปลี่ยนวิถีการผลิตมาสู่การปลูกพืชยืนต้น หรือไม้ป่าเศรษฐกิจที่ให้ผลผลิตในระยะยาว  จากความสำคัญนี้โครงการ วปอ.56 ปลูกป่าวนเกษตรอย่างมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงได้เกิดขึ้นจากการร่วมแรงร่วมใจของ นักศึกษา วปอ. รุ่น 56 รวมถึงการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากมูลนิธิโครงการหลวง รวมถึงผู้สนับสนุนจากภาครัฐ เอกชน ทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ ที่ทำให้โครงการฯ ดำเนินงานลุล่วงไปด้วยดี

นายสมหวัง  บุญระยอง   รองผู้ว่าการราชการจังหวัดเชียงราย  กล่าวว่า  จังหวัดเชียงรายกำหนดวิสัยทัศน์  “เชียงรายเมืองแห่งความสุข สะอาด ปลอดภัย น่ายล”  หนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของจังหวัดมุ่งเน้นการการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ ดำรงความสมบูรณ์และยั่งยืน  โดยเน้นการเพิ่มจำนวนพื้นที่สีเขียว ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ/หมอกควันไฟ  โครงการฯ ที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นโครงการที่ดีและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับจังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ยังได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่สูง นับเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน และจะเป็นการชักจูงให้เกษตรกรไม่ตัดไม้ทำลายป่า ช่วยลดการเผาป่า รวมถึงช่วยลด PM 2.5 อย่างเป็นรูปธรรมด้วย

ดร.ชุติมา   เอี่ยมโชติชวลิต  ผู้ว่าการ วว. ในฐานะประธานคณะทำงานด้านกิจกรรมเพื่อสังคมของนักศึกษา วปอ. รุ่น 56  กล่าวว่า โครงการ วปอ. 56 ปลูกป่าวนเกษตรอย่างมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปี (ปี 2566-2568)  มีเป้าหมายปลูกป่าแบบผสมผสาน จำนวน  21  ไร่  ในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยน้ำริน  โดยเน้นการปลูกพืชเศรษฐกิจ อาทิ  ลำไย  มะม่วง  อาโวกาโด  และกาแฟ  ผสมกับการปลูกไม้ป่าโตเร็ว  ร่วมกับการเพาะเชื้อเห็ดไมคอร์ไรซา ให้เติบโตเป็นพื้นที่ป่าเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นแหล่งอาหารและสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน  มุ่งส่งเสริมการปลูกป่า เพื่อสร้างอาชีพทางเลือก สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร อีกทั้งเป็นการสร้างรายได้ด้วยเศรษฐกิจสีเขียวจากการอนุรักษ์ผืนป่า ด้วย “คาร์บอนเครดิต” ตามแนวทางของรัฐบาล รวมถึงการเพิ่มศักยภาพของเยาวชนหรือเกษตรกรเพื่อการประกอบอาชีพที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ภายใต้ระบบวนเกษตร ด้วยกระบวนการปลูกป่าอย่างมีส่วนร่วม ส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรจากระบบการเกษตรและป่าไม้อย่างยั่งยืน  เสริมสร้างและสนับสนุนศักยภาพเยาวชนในการเรียนรู้และสร้างอาชีพที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

“…นอกจากการปลูกป่าแล้ว  โครงการฯ ยังได้จัดสร้าง “โรงเรือน” สำหรับเพาะกล้าไม้ป่าชุมชน เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการช่วยรักษาป่า  โดยเยาวชนจะได้รับการอบรมให้สามารถเพาะกล้าไม้ป่ารวมทั้งไม้ผลหลากหลายชนิด นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่สำหรับถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรวิถีใหม่  อาทิ เทคโนโลยีการเพาะพันธุ์กล้าไม้ การเพาะเชื้อเห็ดไมคอร์ไรซา การผลิต “ชีวภัณฑ์” ทดแทนการใช้สารเคมี รายได้จากกิจกรรมที่เกิดขึ้น จะถูกนำไปต่อยอดในการผลิตกล้าไม้ เกิดเป็นรายได้หมุนเวียนกลับเข้าสู่ชุมชน  นอกจากนั้นโครงการฯ ยังได้จัดสร้าง บ่อกักเก็บน้ำ จำนวน  2 บ่อ และมอบถังเก็บน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำให้เกษตรกรมีน้ำเพียงพอสำหรับช่วงฤดูแล้ง รวมถึงได้มอบจักรยานสำหรับให้นักเรียนไว้ใช้เป็นสาธารณประโยชน์ด้วย  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเริ่มต้นกิจกรรมในวันนี้ จะนำไปสู่การเพิ่มพื้นที่สีเขียว และการสร้างประโยชน์ให้แก่ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป…” ดร.ชุติมา  เอี่ยมโชติชวลิต  กล่าว

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here