ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ลำพูนอยู่ห่างจากจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 35 กิโลเมตร ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลกันมากนัก ทำให้เป็นเมืองที่สามารถรองรับการขยายตัวของเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในด้านการแพทย์ หลังจากที่เชียงใหม่ได้รับการผลักดันให้เป็น ศูนย์กลางทางการแพทย์นานาชาติ  (Chiang Mai Medical and Health Hub) เพื่อรองรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ด้วยความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของเชียงใหม่ ตลอดจนภูมิประเทศ วัฒนธรรม และองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพที่สั่งสมมายาวนานของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นจุดแข็งที่ทำให้เชียงใหม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มชาวต่างชาติผู้มีกำลังซื้อสูง ที่ต้องการเข้ามารับบริการทางการแพทย์ระดับพรีเมียม รวมทั้งพักอาศัยในระยะยาว และเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย

ขณะเดียวกัน ภารกิจสำคัญอีกประการหนึ่งของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็คือ การดำเนินการของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หรือโรงพยาบาลสวนดอก ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ให้บริการด้านการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนในพื้นที่เขต 17 จังหวัดภาคเหนือ และประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขยายงานทางด้านวิชาการออกไป เพื่อพัฒนาทักษะของบุคลากรทางการแพทย์ และรองรับความเปลี่ยนแปลง ที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงเป็นที่มาของการก่อตั้ง “ศูนย์บริการทางการแพทย์ หริภุญไชย” ขึ้นที่ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน

ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวถึงความเป็นมาของการตั้งศูนย์บริการทางการแพทย์หริภุญไชย ที่จังหวัดลำพูนว่า “ศูนย์บริการสุขภาพที่หริภุญไชย เป็นโครงการที่มาพร้อมกับโครงการ Medical Hub เพื่อสร้างศูนย์บริการสุขภาพการแพทย์ ซึ่งท่านอธิการบดี ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต ท่านก็มองว่าเรามีพื้นที่การศึกษาของเราที่ลำพูนอยู่แล้ว ถ้าเราขยายตรงนี้ไปที่ลำพูนด้วย ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่บริเวณนั้น และเป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ แทนที่จะอยู่เฉพาะในเชียงใหม่ แต่ที่ลำพูนอาจจะมีความหลากหลายมากกว่า เพราะฉะนั้น จึงคิดว่าเหมาะที่จะใช้พื้นที่ตรงนั้นสร้างเป็นโรงพยาบาลขนาด 228 เตียง ดูแลผู้ป่วยทั่วไป และเป็นโรงพยาบาลที่เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลสวนดอก คนไข้ตรวจที่ลำพูน และสามารถส่งต่อมาที่สวนดอกได้โดยใช้ระบบเชื่อมโยงกัน นอกจากจะช่วยขยายบริการให้กับพื้นที่ในแถบนั้นแล้ว ก็ยังเพิ่มโอกาสในการรักษาขั้นสูง หรือระดับที่ยาก ๆ สามารถส่งต่อเข้ามาที่สวนดอกได้เลย”

รวมถึงยังเป็นพื้นที่ที่เอื้อต่อการเป็นศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาทักษะของบุคลากรทางการแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตามภารกิจดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้แพทย์ได้ศึกษาโรคในท้องถิ่น นำไปสู่องค์ความรู้ที่หลากหลาย และสามารถตอบสนองต่อความต้องการในพื้นที่ได้ ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และเมื่อแล้วเสร็จศูนย์บริการทางการแพทย์หริภุญไชย จะเป็นโรงพยาบาลที่จะสร้างเสริมสุขภาพให้แก่ประชาชนชาวลำพูน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการให้บริการสุขภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของสังคม เพื่อบรรลุถึงวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่รับผิดชอบต่อสังคม และพัฒนาสู่ความเป็นเลิศที่ยั่งยืนในอนาคต

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here